คนท้องสูดฝุ่น PM2.5 อันตรายไหม เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดหรือเปล่า ?

เมื่อพูดถึงบรรยากาศภายนอกแล้ว ช่วงนี้หลายพื้นที่เจอปัญหา ฝุ่น PM2.5 ได้บ่อยมาก เรียกได้ว่าบางพื้นที่จังหวัด กลายเป็นพื้นที่สีแดงติดอันดับโลก หากเป็นแบบนี้แม่ท้องต้องระวัง แต่ถ้าหากจำเป็นต้องเดินทาง เชื่อว่าหลายบ้านต้องมีข้อสงสัยว่า คนท้องสูดฝุ่น PM2.5 อันตรายไหม เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดหรือเปล่า

ด้วยความกังวลว่าทารกในครรภ์ จะได้รับผลกระทบจากการสูดฝุ่นพิษ จนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง วันนี้ Mamastory จะพาไปหาคำตอบพร้อมกันค่ะ ว่าหากสูดฝุ่นเยอะเกินไป จะส่งผลต่อการคลอดได้อย่างไร มาหาคำตอบที่ด้านล่างไปพร้อมกันเลยค่ะ !

คนท้องสูดฝุ่น PM2.5 หนึ่งในกลุ่มเสี่ยงอันตราย

ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เพศไหน ย่อมได้รับความเสี่ยงจากฝุ่น PM2.5 ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอยู่แล้วค่ะ แต่ก็มีการจำกัดกลุ่มความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน ซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุด โดยนอกจากคนท้องแล้ว ยังมีผู้สูงอายุ เด็ก และผู้มีโรคประจำตัว ที่จัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง ที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะหากร่างกายได้รับปริมาณฝุ่น PM2.5 มากเกินไป อาจส่งผลให้มีอาการแพ้ หรือมีการแทรกซ้อนรุนแรงได้ค่ะ

ในส่วนของคนท้องนั้น หากได้รับปริมาณฝุ่นพิษเป็นจำนวนมาก สามารถทำให้เกิดความผิดปกติได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นต่อตัวแม่ท้องเอง และทารกในครรภ์ ซึ่งผลกระทบนี้ยังรวมไปถึง ทารกแรกเกิดด้วยค่ะ ซึ่งอันตรายเหล่านี้ มักเกิดจากปริมาณฝุ่นพิษ ที่สะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไป ดังนั้นถึงแม้ว่าจะอยู่ในบ้าน แต่ก็ต้องระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม และต้องระวังยิ่งกว่าเดิม เมื่อต้องเดินทางออกไปข้างนอก หรือสถานที่โล่งแจ้ง ที่มีปริมาณฝุ่น PM2.5 หนาแน่น

บทความที่เกี่ยวข้อง : PM2.5 อันตรายกับเด็กเล็ก ภัยร้ายทำลายสุขภาพที่แม่ต้องรู้ !

คนท้องสูดฝุ่น PM ส่งผลเสียต่อการคลอดหรือไม่ ?

บอกได้เลยว่า ฝุ่น PM2.5 เป็นหนึ่งในส่วนที่สร้างอันตราย ที่อาจมีผลต่อการคลอดของแม่ท้องได้ โดยอาจส่งผลให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ สามารถสังเกตได้จากสัญญาณเตือนต่าง ๆ ที่มาจากอาการปวด เช่น มีอาการปวดช่วงเอวลงไป เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหาย แม่ท้องบางรายอาจมีอาการปวดท้องเป็นระยะ ๆ สูงสุด 4 ครั้งใน 20 นาที หรืออาจมีมูกเลือดไหลจากช่องคลอด

นอกจากนี้ ในการสังเกตว่า ฝุ่นพิษ PM2.5 มีปัญหาต่อการคลอดก่อนกำหนดหรือไม่ ยังดูได้จากการที่ ทารกดิ้นน้อยลงกว่าปกติ โดยหากมีอาการอันตรายเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องรอเวลา หรือรอในอาการหนักกว่าเดิม หากรู้สึกว่าผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที !

ภาวะแทรกซ้อน หากคลอดก่อนกำหนด

• ทารกหายใจลำบาก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
• เสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว
• เส้นเลือดสมองเปราะแตกง่าย
• การมองเห็นไม่ปกติ
• มีโอกาสบกพร่องทางการได้ยิน
• ทารกติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่าย
• ภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง
• มีผลต่อพัฒนาการรอบด้านในระยะยาว

ซึ่งหากทารกคลอดก่อนกำหนด จำเป็นต้องได้รับการดูแล จากแพทย์อย่างใกล้ชิดที่สุดตลอด 24 ชั่วโมงหลังการคลอด นอกจากนี้ยังอาจมีภาวะผิดปกติ ที่ไม่ได้กล่าวถึงด้านบนได้ด้วยค่ะ !

ฝุ่น PM2.5 ส่งผลเสียหลายข้อต่อแม่ท้อง

นอกจากการคลอดผิดปกติ ที่เร็วกว่ากำหนดคลอดแล้ว ฝุ่นพิษ PM2.5 ยังส่งผลให้เกิดผลกระทบอื่น ๆ ที่ตามมาภายหลังได้เช่นกัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอาการที่อันตราย อาจสร้างความรุนแรงได้ หากแม่ท้องไม่ระวัง เช่น

บทความที่เกี่ยวข้อง : ฝุ่น PM2.5 แม่ท้องและทารกเสี่ยงหนัก เมื่ออยู่กลางแจ้ง ต้องระวัง!

1. ฝุ่นทำให้ทารกตัวเล็ก

หากแม่ท้อง ได้รับฝุ่นพิษมากเกินไป จะส่งผลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ จนอาจทำให้น้ำหนักแรกเกิดของทารก มีน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในช่วงแรก ไม่สมบูรณ์ในช่วงแรกเกิด ส่งผลให้ลูกออกมาตัวเล็ก ไม่แข็งแรง เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายกว่าทารกทั่วไป

2. ฝุ่นอาจทำให้ทารกเสียชีวิตเฉียบพลัน

โรคใหลตาย (SIDS) หรือโรคการเสียชีวิตเฉียบพลันในเด็กทารก เป็นความเสี่ยงรุนแรงที่ควรรีบไปพบแพทย์ สามารถสังเกตได้จากการหยุดหายใจ หรือหายใจเสียงดัง หรือมีอาการตัวเขียว ซึ่งต้องหมั่นสังเกตลูกตลอดเวลา

3. ฝุ่นเพิ่มความเสี่ยงออทิสติก

จริงอยู่ที่โรคออทิสติก เกิดจากความผิดปกติของสมองทารก ซึ่งเป็นอาการที่เกิดตั้งแต่ในครรภ์ บางรายอาจเป็นโรคนี้ เนื่องจากการที่แม่ท้อง ได้รับฝุ่นพิษปริมาณที่มากเกินไป จนฝุ่นไปส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ซึ่งอาการโรคนี้ สามารถสังเกตได้จากที่ลูกเติบโตขึ้น หรือเมื่ออายุ 6 เดือน ลูกเริ่มจะไม่ยิ้ม และอารมณ์สนุกสนานลดลง

4. ฝุ่นทำให้เสี่ยงครรภ์เป็นพิษ

ภาวะครรภ์เป็นพิษนี้ สร้างความเสี่ยงต่อเนื่องหลายอย่าง เช่น ทำให้มีอาการบวม, สายตาพร่ามัว, ทารกโตช้า และอาจรุนแรงถึงขั้นชัก หรือหมดสติได้ นอกจากนี้ยังอาจสร้างภาวะแทรกซ้อนอื่นอย่าง เลือดออกในสมอง หรือรกลอกตัวก่อนกำหนด ได้เช่นกันค่ะ

วิธีเลี่ยงฝุ่น PM2.5 เมื่อต้องเดินทาง

• ออกจากบ้านให้น้อยที่สุด : เพราะการออกจากบ้านให้น้อยที่สุด จะช่วยให้ไม่ต้องเจอฝุ่นในระดับหนึ่ง ควรจะออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น และในการออกไปแต่ละครั้ง ควรที่จะป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัดเสมอ
• สวมหน้ากากอนามัยเสมอ : ทุกครั้งที่อยู่นอกบ้าน หรือนอกตัวอาคาร สถานที่เสี่ยงมีฝุ่นสูง แม่ท้องควรสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอด โดยทั่วไปแล้ว หน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่น 5 ได้ดี คือ หน้ากากอนามัย N95
• ออกห่างผู้สูบบุหรี่ : เพราะปริมาณในสารพิษในอากาศ ทำให้แม่ท้อง และทารกในครรภ์มีความเสี่ยงมากพอแล้ว การเลี่ยงผู้ที่สูบบุหรี่ หรือในพื้นที่มีคนสูบบุหรี่ จะช่วยป้องกันได้มากขึ้นค่ะ

นอกจากนี้การอยู่บ้านก็ต้องดูแล และป้องกันตัวเองด้วยค่ะ สามารถทำได้ดังนี้

1. งดการเผาทุกอย่าง ก็เป็นอีกช่องที่สามารถลดการเกิดฝุ่น หรือควันพิษกลุ่มใหม่ได้
2. เลี่ยงการเปิดหน้าต่างในช่วงที่มีฝุ่นมาก เพื่อทำให้พื้นที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
3. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ทางเลือกที่คนยุคนี้ให้ความสำคัญ เนื่องจากปัญหาฝุ่นพิษเรื้อรัง
4. ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศได้ เช่น ต้นยางอินเดีย หรือพลูด่าง เป็นต้น ร่วมกับเครื่องฟอกอากาศ
5. ทำความสะอาดบ้านมากขึ้น เพื่อลดฝุ่นที่อาจมาติดเกาะตามเฟอร์นิเจอร์

แม้ว่าในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นที่สาธารณะอื่น ๆ จะเปิดโอกาสให้ลดการ์ดจากโควิด-19 ด้วยการไม่สวมผ้าอนามัยแล้ว แต่เพื่อความปลอดภัยจากฝุ่นพิษ แม่ท้องอาจจะยังต้องสวมอยู่ เพื่อระวังอันตรายข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ การดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน ก็ยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีค่ะ !

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

คนท้องเลี้ยงแมวได้ไหม ถ้าอันตรายสูง แล้วจะอยู่ยังไงให้แฮปปี้

คนท้องยืดผมได้ไหม อยากทำผมสวยตอนตั้งครรภ์ ทำได้หรือเปล่า ?

อาการก่อนคลอด แม่ท้องจะรู้ได้ยังไง มีอะไรบอกได้บ้าง ?

ที่มา : 1, 2, 3